คู่มือชีวิตและการทำงาน

‘ส.ขอนแก่น’ จับมือ กสิกรไทยและเอสเอ็มอี แบงก์ ปล่อยสินเชื่อให้แฟรนไชส์ซี่

ส.ขอนแก่นฟู้ดส์  จับมือกสิกรไทยและเอสเอ็มอี แบงก์ ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ร้านแซ่บ คลาสสิกและร้านข้าวขาหมูยูนนาน ระบุช่วยติด    สปีดการเร่งเปิดขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์ หนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจ QSR ปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 160 ล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 40%

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่สายงาน QSR บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยและธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี แบงก์ ในการสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนขยายสาขาร้านแซ่บ คลาสสิกและร้านข้าวขาหมูยูนนานของกลุ่ม ส.ขอนแก่น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจซื้อ แฟรนไชน์แต่ไม่มีเงินทุน สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการประกอบธุรกิจ และได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ส.ขอนแก่น

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าลงทุนซื้อแฟรนไชส์ธุรกิจร้านอาหารจาก ส.ขอนแก่น นั้น จะต้องแจ้งความจำนงขอสมัครกับบริษัทฯ ก่อนได้รับการพิจารณาแล้วตอบกลับไปยังผู้ที่ต้องการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ เพื่อนำไปใช้ประกอบเอกสารการขอสนับสนุนสินเชื่อประกอบธุรกิจกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะช่วยให้สามารถได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

“เราได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินทั้ง แห่งด้านการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจแก่ผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์ร้านแซ่บ คลาสสิกและร้านข้าวขาหมูยูนนาน ที่มีทำเลเปิดร้านดีแต่เงินทุนไม่เพียงพอ ด้วยการสนับสนุนนี้จะทำให้ผู้สนใจสามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารจากกลุ่ม ส.ขอนแก่นได้ดียิ่งขึ้น” นายจรัสภล กล่าว

ส.ขอนแก่น

ประธานเจ้าหน้าที่สายงาน QSR กล่าวว่า ความร่วมมือกับสถาบันการเงินในครั้งนี้ จะส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจอาหารจานด่วนหรือ QSR ที่ช่วยการเร่งขยายสาขาร้านแซ่บ คลาสสิก และร้านข้าวขาหมูยูนนานได้ดียิ่งขึ้น จากเป้าหมายในปีนี้ ที่มีแผนเปิดให้บริการนร้านแซ่บ คลาสสิก จำนวน 20 สาขา แบ่งเป็น สาขาที่บริษัทฯ ลงทุนเอง 13 สาขา และแฟรนไชส์อีก สาขา

ทั้งนี้ จากแผนงานดังกล่าว เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจ QSR ในปีนี้ทำยอดขายประมาณ 160 ล้านบาท หรือเติบโตมากกว่า 40%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและช่วยผลักดันภาพรวมผลการดำเนินงานของ ส.ขอนแก่นสามารถทำยอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ตามแผนที่วางไว้