“อ่าน…อีกครั้ง” คือแนวคิดหลักในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 46 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 16 ที่กำลังจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“การอ่านคือปัจจัยทางด้านความรู้ต่างๆทุกอย่างเริ่มจากการอ่าน นำไปสู่การทดลอง และริเริ่มลงมือทำ สิ่งที่คนอ่านก็คือเนื้อหา แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบ เราสามารถหาความรู้ได้จากรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่หนังสือเล่มถึงออนไลน์ ซึ่งคนก็จะไปเปลี่ยนแปลงโลกจากความคิดที่เขาได้รับจากเนื้อหาต่างๆ ไม่ว่าจะอ่านด้วยรูปแบบใด เพราะทุกรูปแบบทุกเครื่องมือเป็นเพียงสื่อที่บรรจุสารที่มนุษย์คิดค้นขึ้น โดยมีการ “อ่าน” เป็นเครื่องมือในการถอดรหัส
ถ้ายังอยากจะสร้างคุณภาพของคนไทยให้สามารถแข่งขันในโลกใบนี้ได้ เราต้องสร้างวัฒนธรรมการอ่าน ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม เราจึงควรจะกลับมาอ่านกันอีกครั้ง เพื่อสร้างคุณภาพคนไทยให้มีความรู้และจินตนาการที่ทันยุคสมัยพร้อมที่จะแข่งขันในเวทีโลก”
ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งนี้ มีนิทรรศการ 2 นิทรรศการที่น่าสนใจมาก คือ “นิทรรศการอ่าน…อีกครั้ง” และ “นิทรรศการ Creative Comic Collection (CCC)” จากไต้หวัน ซึ่งทั้ง 2 นิทรรศการสามารถเชื่อมโยงให้เห็นถึงเส้นทางการอ่านตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และสิ่งที่กำลังจะเป็นอนาคต ที่ไม่ว่าแพล็อตฟอร์มจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน คอนเทนท์เนื้อหาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นองค์ประกอบสำคัญที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมได้ จากคนที่อ่านหนังสือ
อดีต ปัจจุบัน และอนาคตบางส่วนอยู่ในนิทรรศการหลักของงานคือ นิทรรศการ“อ่าน…อีกครั้ง” โดยนอกจากจะเล่าถึงเส้นทางการอ่าน ที่แสดงให้เห็นพัฒนาการของอ่านในรูปแบบต่างๆแล้ว ยังเครื่องพิมพ์โบราณอายุ 187 ปี หนังสือจินดามณีฉบับโบราณมาแสดงด้วย รวมถึง “หนังสือเปลี่ยนโลก” ซึ่งนำเสนอหนังสือเล่มสำคัญที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์ในทุก ๆ ด้าน และ “หนังสือเปลี่ยนไทย” ซึ่งจะนำเสนอหนังสือเล่มสำคัญที่เป็นหลักหมายของสังคมไทยที่ยังมีผลมาจนถึงปัจจุบันด้วย ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบการอ่านใดก็ตาม
ในขณะที่หนังสืออื่นๆมุ่งเน้นไปที่การจัดการในเชิงสถาบัน อีกเล่มที่รู้จักกันดีคือ “คู่กรรม” โดย ทมยันตี ซึ่งเป็นนวนิยายแนวโศกนาฏกรรมและโรมานซ์ (สิ่งที่โดดเด่นของ คู่กรรม คือการสร้างความรับรู้ร่วมกันของสังคมไทยเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 กับญี่ปุ่น ซึ่งมีแต่ไทยเท่านั้นที่สามารถมีนิยายแนวโศกนาฏกรรมและโรมานซ์เกี่ยวกับทหารญี่ปุ่นออกมาได้ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านในอุษาคเนย์กลับไม่มี และคู่กรรมคือการสร้างคำอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ไม่โหดร้าย
เมื่อได้เห็นฉากและตัวการ์ตูนในหนังสือมาปรากฏตัวอยู่บนสมาร์ทโฟน ในนิทรรศการ Creative Comic Collection การ์ตูนทั้ง 4 เรื่องจากไต้หวัน คือ “ปริศนาหอร้อยภาพ” “ชาอู่หลงกับการผจญภัยในต่างแดน” “บันทึกจากชาวดัตช์” และ “ละครหุ่นผ้าสัประยุทธ์” ที่นำมาจัดแสดงด้วยเทคโนโลยี AR และ Google Tango ซึ่งจับภาพรอบด้านด้วยเซนเซอร์อัจฉริยะ มีธีมหลักคือการเล่าประวัติศาสตร์ของไต้หวันให้เด็กรุ่นใหม่ได้เข้าใจ
เมื่อเดินเข้ามาในส่วนที่จัดนิทรรศการ จะได้รับหูฟังพร้อมสมาร์ทโฟนขนาดเหมาะมือที่มีเทคโนโลยี AR ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยภายในห้องจะแบ่งออกเป็นสี่มุม มาจากหนังสือการ์ตูน 4 เรื่องของไต้หวันที่มีสำนักพิมพ์แปลเป็นภาษาไทยแล้วทุกเล่ม แต่ละมุมจะดูเหมือนเป็นห้องว่างๆที่มีฉากและอุปกรณ์ประกอบฉากวางไว้ แต่เมื่อสวมหูฟังและเปิดแอพพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนปุ๊บ ตัวละครในการ์ตูนก็จะโผล่ออกมาในฉากว่างๆเหล่านั้น และพูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆในการ์ตูน