“อภิรักษ์” ลุยต่อตลาดอาหารเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ รับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ใส่ใจในสุขภาพ เปิดตัว น้ำผลไม้ “ซันคิสท์ เฟรชชี่” รสชาติใหม่ “มิ้นต์ เลมอนเนด” พร้อมเตรียมแผนตลาดออนไลน์กระตุ้นการรับรู้สู่ผู้บริโภค จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเต็มรูปแบบ เพิ่มยอดขายบริษัทรวมเติบโตต่อเนื่อง ในปี 61 แนะผู้ประกอบการเร่งปรับตัว 4 ด้านรับตลาดฟื้นตัว 7-10% ใน 2-3 ปี
ในปี 2560 สินค้าในกลุ่มข้าวโพด วี คอร์น เติบโตกว่า 35% และตั้งเป้าหมายว่าในปี 2561 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 30% โดยสินค้าหลักของบริษัทฯ ยังคงเป็นข้าวโพดพร้อมรับประทาน คิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 66% ของรายได้รวม เนื่องจากข้าวโพด วี คอร์น เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มข้าวโพดพร้อมทาน แต่บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการผลักดันสินค้ากลุ่มใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะน้ำผลไม้พร้อมดื่ม “ซันคิสท์ เฟรชชี่” (Sunkist Freshie) ซึ่งเริ่มทำตลาด 2 รสชาติคือรส “นาเวล ออเร้นจ์” และรส “บลัด ออเร้นจ์” มาตั้งแต่ปี 2560 นั้น ล่าสุดในวันที่ 4 เม.ย.61 จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือรส “มิ้นต์ เลมอนเนด” บรรจุขวดขนาด 340 มล. ราคาขวดละ 20 บาท ในรสชาติเปรี้ยวสุดจี๊ดจากเลมอนและเย็นสุดขั้วจากคูลลิ่งมิ้นท์ สูตรน้ำตาลน้อยกว่า สอดรับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งที่ได้รับการรับรองและพัฒนาจาก “Sunkist” ว่าเป็นรสชาติที่แปลกใหม่เพิ่มความสดชื่นและถูกใจผู้บริโภคเหมาะกับช่วงฤดูร้อน
บริษัทฯ ยังจะเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายให้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมที่มีการจำหน่ายเฉพาะร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น โดยในไตรมาส 2/61 จะเริ่มมีขยายช่องทางผ่านร้านสะดวกซื้ออื่นๆ เช่น แฟมิลี่ มาร์ท, เทสโก้ โลตัส เอ็กซเพรส และลอว์สัน 108 ขณะเดียวกันยังจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายในกลุ่มซูเปอร์มาเก็ต เช่น เดอะ มอลล์, ท็อปส์, วิลล่า มาร์เก็ต, แม็กซ์ แวลู เป็นต้น
ในช่วงเดือนเมษายน 2561 บริษัทฯ ยังมีแผนเปิดตัวแคมเปญการตลาดออนไลน์เพื่อกระตุ้นการรับรู้สู่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย นักศึกษา คนทำงาน พร้อมปล่อยคลิปวีดีโอ 3 เวอร์ชั่น ในช่องทางออนไลน์ ทั้ง Youtbe Facebook หรือ LineTV ภายใต้แนวคิด “สดชื่นเต็มที่ ชีวิตไปได้อีก เติมความสดชื่น ปลุกแพชชั่นได้ทุกวัน ด้วยน้ำผลไม้ซันคิสท์” (Live Fresh with Passion) พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในสถานที่ต่างๆ ทั้งอาคารสำนักงาน และสถาบันการศึกษาต่างๆ ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งจัดกิจกรรมช่วงเทศกาลสงกรานต์ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงจัดกิจกรรมด้านมิวสิกมาร์เก็ตติ้ง ที่จะตามมา
“บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนการร่วมพัฒนาแหล่งชุมชน ด้วยงบประมาณเข้าไปร่วมฟื้นฟูและพัฒนาแหล่งชุมชนคลองเตย กรุงเทพฯ ในการสร้างสนามฟุตบอลและสนามบาสเกตบอล พร้อมออกแบบกราฟิตี้เพื่อสร้างชุมชนให้น่าอยู่ เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเข้าถึงกีฬาและศิลปะ โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในเดือน พ.ค.ศกนี้”
นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า แนวโน้มตลาดอาหารและเครื่องดื่มในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ในช่วงชะลอตัว โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องดื่มเนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จากข้อมูลของ บริษัท เอซี นีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการข้อมูลทางการตลาดชั้นนำของโลก ณ สิ้นเดือน มกราคม 2561 พบว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดเครื่องดื่มในประเทศไทยเติบโตติดลบประมาณ -3.8% สาเหตุหลักมาจากผู้ประกอบการมีการปรับราคาสูงขึ้นจากนโยบายการปรับภาษีสรรพสามิตน้ำตาลของรัฐบาล จนส่งผลกระทบต่อการบริโภค โดยเฉพาะ น้ำผลไม้และชาพร้อมดื่ม ซึ่งตลาดติดลบค่อนข้างมาก ส่วนภาพรวมของตลาดอาหารยังคงเติบโตอยู่ในระดับทรงตัว
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ นวัตกรรมสินค้าที่ต้องแปลกใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ (Innovation) ทั้งยังต้องอำนวยความสะดวกสบายให้ผู้บริโภคในการเข้าถึงและหาซื้อง่าย (Convenient) ขณะเดียวกันคุณภาพและคุณประโยชน์ของสินค้าต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันแต่ไม่ทำร้ายสุขภาพ (Health Concern, Not Healthy Conscious) โดยแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภคจะสามารถเจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น (Relevant)
ทั้งนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการเป็นองค์กรที่เน้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในการพัฒนาสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม โดยจัดตั้ง V Foods LAB ร่วมกับสถาบันการศึกษาและสถาบันวิจัยและพัฒนาชั้นนำ อาทิ FoodInnopolis ของ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) คณะเทคโนโลยีอาหาร มหาวิทยาลัยรังสิต คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอีกหลายแห่ง รวมถึงการสร้างทีมงานรุ่นใหม่ขึ้นมาให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่