เปิดรายงานผลกระทบด้าน ESG ประจำปี 2566 ลาซาด้า กรุ๊ป กับ 4 เสาหลัก ทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน, การสร้างบุคลากรที่มีความพร้อมสำหรับอนาคต, การปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม และ การกำกับดูแลกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ ในชื่อ “เติมเต็มคุณค่าให้ชีวิต ต่อยอดความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน” ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคม
ลาซาด้า ได้เผยแพร่รายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ประจำปี 2566 ในชื่อ “เติมเต็มคุณค่าให้ชีวิต ต่อยอดความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน” (Enriching Lives, Emerging Stronger) ซึ่งรวบรวมผลการดำเนินงานของบริษัท ในการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ภายใต้กรอบการทำงานด้าน ESG ที่ประกอบด้วย 4 เสาหลัก ได้แก่ 1.การยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน 2.การสร้างบุคลากรที่มีความพร้อมสำหรับอนาคต 3.การปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม และ 4.การกำกับดูแลกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากลาซาด้าได้จัดทำบัญชีคาร์บอนขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นเครื่องมือในการระบุแหล่งที่มาหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) จากการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของบริษัทในปี 2565 ลาซาด้าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยรวมได้ถึง 10% เมื่อเทียบกับกรอบเวลาการรายงานครั้งก่อน
นับเป็นเวลามากกว่า 1 ทศวรรษที่ลาซาด้าได้ขับเคลื่อนการเติบโตของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการค้าและเทคโนโลยี ผมรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เราสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ ตามที่ได้เผยแพร่ในรายงานด้านผลกระทบ ESG ฉบับที่สองของเรา และผมมั่นใจว่าเราจะสามารถต่อยอดความสำเร็จนี้ไปด้วยกัน โดยความยั่งยืนจะยังคงเป็นแกนหลักในการเดินหน้าของเรา การพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ได้เป็นเพียงความรับผิดชอบของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสและความมุ่งมั่นที่เรามีต่ออนาคต ผมเชื่อว่า ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป”นายเจมส์ ตง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวและว่า
สำหรับรายงานผลกระทบด้าน ESG ประจำปีงบประมาณ 2566 ของลาซาด้า ได้นำเสนอภาพรวมความสำเร็จและความคืบหน้าของการดำเนินงานด้าน ESG ที่โดดเด่นของบริษัทฯ ภายในกรอบเวลาการรายงานที่ผ่านมา โดยมีไฮไลท์ที่สำคัญ ดังนี้
4 เสาหลัก กรอบการทำงาน ESG
1.การยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน
- ผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจและสังคม: ลาซาด้าได้สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กว่า 1 ล้านคน[1] จากทุกภาคส่วนใน
อีโคซิสเต็มอีคอมเมิร์ซของลาซาด้าทั้งใน 6 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยผู้ขาย ผู้ให้บริการด้านการค้าดิจิทัล คู่ค้าโลจิสติกส์ รวมถึงพนักงาน - การให้บริการ โครงสร้างพื้นฐาน และการเสริมสร้างขีดความสามารถ เพื่อส่งเสริมชุมชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้:
- ลาซาด้าได้เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC 2022) ครั้งล่าสุด เพื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่มุ่งพัฒนาศักยภาพให้แก่วิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อย (MSMEs) ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจและสร้างการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- ลาซาด้า เวียดนาม ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติด้านความรับผิดชอบต่อสังคม 2 รางวัล จากการสนับสนุนและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่น ในงาน Saigon Times Corporate Social Responsibility 2022 Merit Ceremony และรางวัล Corporate Social Recognition Awards ของหอการค้าอเมริกันในเวียดนาม
2.การสร้างบุคลากรที่มีความพร้อมสำหรับอนาคต
- สภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนความหลากหลายและเปิดรับความแตกต่าง: ลาซาด้ามีพนักงานกว่า 32 สัญชาติ
ในทุกประเทศที่ลาซาด้าดำเนินธุรกิจ โดยมีพนักงานเพศหญิงมากถึง 44% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
- ประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับทุกคน: GROW แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ของลาซาด้า ซึ่งเปิดสอนกว่า 1,000 หลักสูตรสำหรับพนักงานในทุกประเทศ
3.การปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม
- ปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ลดลง: ลาซาด้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) โดยรวมลงถึง 10% เมื่อเทียบกับกรอบเวลาการรายงานครั้งก่อน
- โครงการด้านโลจิสติกส์ที่ยั่งยืน: โครงการจุดเชื่อมต่อการขนส่ง (Transport Access Point: TAP) ของลาซาด้า โลจิสติกส์ ในประเทศอินโดนีเซีย ช่วยลดการเดินทางกว่า 20,000 เที่ยว หรือประมาณ 7 ล้านกิโลเมตร จากกิจกรรมการขนส่งทางถนนที่ลดลง โดยความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือกับพันธมิตรในการใช้รถบรรทุกขนส่งของลาซาด้าในการจัดส่งพัสดุไปยังเมืองที่มีจุดหลายปลายทางร่วมกัน ทำให้สามารถลดการใช้รถบรรทุกขนส่งแยกกันได้
4.การกำกับดูแลกิจการอย่างมีประสิทธิภาพ
- มาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น: ในช่วงกรอบเวลาการรายงานที่ผ่านมา ลาซาด้าไม่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลและการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าจากการดำเนินธุรกิจในส่วนต่าง ๆ ของลาซาด้า
- แนวปฎิบัติและกระบวนการด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา (IPR): เมื่อเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา ลาซาด้า ได้เป็นผู้นำการจัดตั้งคณะทำงานด้านการต่อต้านสินค้าปลอมในธุรกิจอีคอมเมิร์ซประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia eCommerce Anti-Counterfeiting Working Group: SeCA) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าร่วมในภูมิภาคที่จัดตั้งขึ้นเป็นกลุ่มแรก เพื่อแบ่งปันแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการปกป้องสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งในด้านนโยบาย โครงการ เครื่องมือ และทรัพยากรที่แพลตฟอร์มมอบให้แก่แบรนด์ในการบริหารจัดการและป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
รายงานผลกระทบด้าน ESG ประจำปีงบประมาณ 2566 ของลาซาด้า จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการจัดทำรายงานของ Global Reporting Initiative (GRI) ปี 2564[2] สามารถอ่านรายงานผลกระทบ ESG ประจำปีงบประมาณ 2566 “เติมเต็มคุณค่าให้ชีวิต ต่อยอดความแข็งแกร่งอย่างยั่งยืน” ฉบับเต็มได้ที่นี่
สำหรับรายงานผลกระทบด้าน ESG ประจำปีงบประมาณ 2566 ของลาซาด้า นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางและผลการดำเนินงานด้าน ESG ของลาซาด้า กรุ๊ป โดยครอบคลุมการดำเนินงานทั้งหมดใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม รวมถึงการดำเนินงานของบริษัทย่อย ได้แก่ เรดมาร์ท ในสิงคโปร์ โดยมีกรอบเวลาการรายงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566 (“ปีงบประมาณ 2566”) เว้นแต่ว่าจะมีการระบุเป็นอื่น และรวมถึงทีมงานระดับภูมิภาคที่สนับสนุนการดำเนินงานระหว่างประเทศ โดยมีพนักงานอยู่ใน 6 ประเทศและในประเทศจีน
รายงานฉบับนี้ยังประกอบด้วยข้อมูลจากกรอบเวลาการรายงานครั้งก่อนหน้า ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565 (“ปีงบประมาณ 2565”) สำหรับการเปรียบเทียบที่เหมาะสม
มาตรฐาน GRI ได้รับเลือกเนื่องจากเป็นมาตรฐานระดับโลกที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมากที่สุดโดยธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเป็นกรอบการรายงานความยั่งยืนที่มีหลักเกณฑ์ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้ เนื้อหาดัชนีของมาตรฐาน GRI โดยละเอียดอยู่ในส่วนท้ายของรายงาน (หน้า 36)
[1] ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566
[2] ดูรายละเอียดได้ในข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับบรรณาธิการ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
–อัปเดต การดำเนินธุรกิจ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง บนเส้นทางความยั่งยืนของเจ้าของยูนิโคล่